เมนู

2. กินททสูตร



ว่าด้วยเทวตาปัญหา 5 ข้อ



[137] เทวดาทูลถามว่า
บุคคลให้สิ่งอะไรชื่อว่าให้กำลัง ให้
สิ่งอะไรชื่อว่าให้วรรณะ ให้สิ่งอะไรชื่อว่า
ให้ความสุข ให้สิ่งอะไรชื่อว่าให้จักษุ
และบุคคลเช่นไรชื่อว่าให้ทุกสิ่งทุกอย่าง
ข้าพระองค์ทูลถามพระองค์ ขอพระองค์
ตรัสบอกแก่ข้าพระองค์ด้วยเถิด.

[138] พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสตอบว่า
บุคคลให้อาหารชื่อว่าให้กำลัง ให้ผ้า
ชื่อว่าให้วรรณะ ให้ยานพาหนะชื่อว่าให้
ความสุข ให้ประทีปโคมไฟชื่อว่าให้จักษุ
และผู้ที่ให้ที่พักพาอาศัยชื่อว่าให้ทุกสิ่ง
ทุกอย่าง ส่วนผู้ที่พร่ำสอนธรรมชื่อว่าให้
อมฤตธรรม.

อรรถกถากินททสูตร



พึงทราบวินิจฉัยในกินททสูตรที่ 2 ต่อไป :-
บทว่า อนฺนโท อธิบายว่า บุคคลแม้มีกำลังมากแต่ไม่ได้กินอาหาร
หลาย ๆ วัน (สองสามวัน) ก็ไม่อาจเพื่อจะลุกขึ้น ส่วนบุคคลผู้มีกำลังทราม
ได้กินอาหารแล้ว ก็ย่อมถึงพร้อมด้วยกำลังได้ เหตุใด เพราะเหตุนั้น พระ-
ผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสว่า บุคคลให้อาหาร ชื่อว่าให้กำลัง ดังนี้. บทว่า
วตฺถโท อธิบายว่า บุคคลแม้มีรูปงาม แต่มีผ้าสกปรก ดังผ้าขี้ริ้ว หรือไม่มี
ผ้าเลยย่อมเป็นผู้น่าเกลียด ถูกเหยียดหยาม ไม่น่าดู. บุคคลมีผ้าปกปิดดีแล้ว
ย่อมงามราวกะเทพบุตร เหตุใด เพราะเหตุนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสว่า
บุคคลให้ผ้าชื่อว่าให้วรรณะ ดังนี้. บทว่า ยานโท ได้แก่ ยานทั้งหลาย
มีหัตถิยาน (ยานช้าง) เป็นต้น ก็แต่ว่าในบรรดายานเหล่านั้น ยานช้าง ยานม้า
ย่อมไม่สมควรแก่สมณะ การให้ไปด้วยรถก็ไม่สมควรเหมือนกัน ยานที่สมควร
แก่สมณะก็คือ รองเท้าสำหรับสมณะผู้รักษาอยู่ซึ่งศีลขันธ์ เพราะฉะนั้น บุคคล
ให้รองเท้า ไม้เท้าคนแก่ เตียง ตั่ง อนึ่ง บุคคลใดย่อมชำระหนทาง ย่อม
ทำบันได ย่อมทำสะพาน ย่อมมอบเรือให้แม้ทั้งหมดนี้ ก็ชื่อว่า ให้ยาน
เหมือนกัน. บทว่า สุขโท โหติ คือชื่อว่า ให้ความสุข ก็เพราะนำความสุข
ในยานมาให้. บทว่า จกฺขุโท โหติ อธิบายว่า ให้ประทีปโคมไฟ ชื่อว่า
ให้จักษุ เพราะความที่บุคคลทั้งหลาย ถึงแม้มีตาก็ไม่สามารถมองเห็นในที่มืดได้
ผู้ให้ประทีปโคมไฟนั้นย่อมได้แม้ซึ่งความถึงพร้อมเห่งทิพยจักษุเหมือนพระ-
อนุรุทธเถระ. บทว่า สพฺพโท โหติ อธิบายว่า ผู้ให้ทุกสิ่งทุกอย่างดังที่
กล่าวแล้วนั่นแหละ คือมีการให้กำลังเป็นต้น คือว่า เมื่อภิกษุเที่ยวบิณฑบาต